วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

ส.ส. เดือดหวิดวางมวย ให้ของลับดังลั่นสภา





สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

วันที่ 19 มี.ค.เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ท่ามกลางคณะรัฐมนตรีที่มานั่งรับฟังการประชุมกันอย่างคึกคัก ซึ่งการประชุมเริ่มขึ้นเมื่อนายชัยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมทั้งทางวิทยุกระสายเสียงและทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีตลอดการประชุม

ทั้งนี้บรรยากาศการอภิปรายเป็นไป อย่างวุ่นวาย เมื่อ ส.ส. ทั้งพรรคฝ่ายค้าน และรัฐบาลต่างพูดคำหยาบ หลอกด่านายกรัฐมนตรี ทำให้มีการลุกขึ้นประท้วงกันวุ่นวาย นายชัย ชิดชอบ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมต้องขอร้องให้สมาชิกสงบสติอารมณ์ โดยให้เหตุผลว่าไม่อย่างนั้นอาจเกิดเหตุการณ์เกือกร่อนเหมือนสภาฯ เกาหลีได้

อย่างไรก็ตาม มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร กลุ่มบ้านริมน้ำ พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ลุกขึ้นประท้วงที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยกล่าวว่า ฝ่ายค้านอภิปรายนอกประเด็น ขอให้ตรงไปตรงมา อย่าเสียดสี ออกนอกลู่นอกทางเพราะไม่เกิดประโยชน์

ซึ่งนายรณฤทธิชัยยังพูดไม่จบประโยค นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวสวนทันทีว่านายรณฤทธิชัยลุกขึ้นมาประท้วงหรืออภิปราย หากอยากเป็นรัฐมนตรีให้รอปรับ ครม.รอบหน้าก่อน ทำให้นายรณฤทธิชัยกล่าวตอบโต้เช่นกันว่า "สมัยนี้แหละ" อย่างไรก็ตาม เมื่อนายรณฤทธิชัยกล่าวจบ นายสุรเชษฐ์ก็ตะโกนด่า "_วย" ลั่นห้องประชุม พร้อมชูนิ้วกลางเป็นสัญลักษณ์การให้ของลับ ทำให้นายรณฤทธิชัยซึ่งยืนอยู่คนละฟากของห้องประชุมไม่พอใจ ลุกขึ้นเดินปรี่เข้าไปหานายสุรเชษฐ์ ทันที ขณะที่นายสุรเชษฐ์ก็เดินปรี่เข้าหานายรณฤทธิชัย เช่นกัน ท่ามกลางเพื่อน ส.ส.แต่ละฝ่ายที่รีบวิ่งเข้าไปจับทั้ง 2 คนให้สงบสติอารมณ์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.ผุสดี ตามไท ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่าง ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ... กล่าวถึงเหตุการณ์แจกกล้วยกันกลางที่ประชุมสภาฯ ว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชน เหตุการณ์แจกกล้วยกันกลางที่ประชุมสภาฯว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชน

"ส.ส.ทั้งคู่ ถือว่า ทำผิดข้อบังคับการประชุมสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ต้องห้ามไม่ให้ส.ส.พูดจาหยาบคายได้ ถ้าไม่เชื่อก็มีสิทธิจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หิ้วตัวออกนอกห้องประชุม แต่ประธานปล่อยปละละเลย ไม่ทำหน้าที่ควบคุมอะไรเลย ปล่อยให้มีการพูดเท็จ เสียดสี ให้ส.ส.พูดถึงส่วนที่ชั่วของอีกฝ่ายออกมา ซึ่งเป็นการยั่วยุกันอยู่ตลอดเวลา จนนำไปสู่การเผชิญหน้ากันในที่สุด"

นางผุสดี กล่าวว่า หากมีประมวลจริยธรรม ส.ส.ขึ้นมา ก็จะมีกลไกเอาผิดผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไร้มารยาท ได้แต่ระหว่างนี้ อยากให้ ส.ส. และสังคม ออกมาประนามพฤติกรรมของ ส.ส. แบบนี้ ให้มากๆ และหากเพื่อน ส.ส.ร้องเรียนขึ้น ก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดได้

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า เท่าที่ติดตามฟังการอภิปรายแล้ว ต้องยอมรับว่า ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเก่าที่มีการปราศรัยบนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช. มาก่อนแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ โดยเนื้อหาหลักๆ มุ่งโจมตีและทำลายความชอบธรรมของรัฐบาล โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก เพราะพรรคเพื่อไทยทราบดีว่า นายกฯ เป็นจุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้ ก็เลยพยายามนำเรื่องเล้กเรื่องน้อยเพื่อโยงเข้าหานายกฯ

เขาบอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ฝ่ายค้านไม่ต้องยื่นญัตติเปิดอภิปรายให้เสียเวลาก็ได้ ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินตามงานวัด งานบวช งานแต่ง ยังดูน่าติดตามมากกว่า

"น่าเป็นห่วง ที่จนป่านนี้ รัฐสภาไทยยังไม่ปรับตัว ทั้ง ๆ ที่บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่วิกฤติการณ์อย่างรอบด้าน แต่เรากลับยิ่งเห็นการทำงานของการเมืองแบบเก่าอย่างน่าสลดใจ"



อ้างอิง

http://hilight.kapook.com/view/35011


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น